“สื่อมวลชนแสดงความอาลัยในหลวงรัชกาลที่ ๙”

 

สื่อมวลชนร่วมสักการะพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเปิดลงนามแสดงความอาลัยเป็นวันแรกที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ก่อนจัดกิจกรรมใหญ่ ๑๔ องค์กรสื่อ ๑๓ พ.ย.

๒๙ ต.ค.๒๕๕๙ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย  พร้อมด้วยผู้แทนองค์กรสื่อต่างๆ ร่วมพิธีสักการะพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เนื่องในโอกาสที่สมาคมฯเปิดให้สื่อมวลชนร่วมลงนามแสดงความอาลัย ณ อาคารที่ทำการสมาคมฯ เป็นวันแรก โดยมีพงษ์ศักดิ์ พยัฆวิเชียร นักหนังสือพิมพ์อาวุโส  เป็นประธานในพิธีลงนามแสดงความอาลัย

นายวันชัย วงศ์มีชัย นายก สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยเป็นตัวแทนกล่าวว่า ด้วยสำนึกพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  ข้าพระพุทธเจ้า นายวันชัย วงศ์มีชัย นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย พร้อมด้วยสื่อมวลชนอาวุโสและบรรดาสื่อมวลชนทุกแขนง ต่างทุกข์โศกและอาดูรต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นับเป็นวันที่ความเศร้าเข้าปกคลุมจิตใจของปวงข้าพระพุทธเจ้าและประชาชาวไทยทุกคน

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อวงการสื่อมวลชนอย่างใหญ่หลวงโดยเฉพาะอาคารสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นที่ทำการของหลายองค์กรสื่อในปัจจุบัน สร้างขึ้นในที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จพระราชดำเนินทรงวางศิลาฤกษ์ในวันพฤหัสบดีที่ ๖ มีนาคม ๒๕๑๒ และเสด็จฯพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถทรงเปิดอาคารในวันเสาร์ที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๑๔ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อวงการสื่อมวลชนหาที่สุดมิได้

ในวโรกาสดังกล่าว ได้ทรงเมตตาพระราชทานพระบรมราโชวาทอันมีคุณค่ายิ่งต่อวงการสื่อมวลชนว่า

“ นักหนังสือพิมพ์เป็นผู้เสนอข่าวสาร ความรู้ ความคิดเห็น รวมทั้งเป็นปากเสียงแทนผู้อื่นทุกเรื่องทุกสิ่งที่ท่านนำลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์แพร่หลายไปได้ โดยรวดเร็วและกว้างขวางอย่างไม่มีขอบเขต จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จักต้องปฏิบัติงานด้วยความตั้งใจ ด้วยความพิจารณาที่รอบคอบ ด้วยความสุจริต ยุติธรรมและด้วยความสำนึกในความรับผิดชอบเป็นพิเศษอยู่เป็นนิตย์”

อีกทั้งมีพระราชดำรัสพระราชทานแก่สมาชิกสมาคมนักหนังสือพิมพ์ ที่กรุงวอชิงตันว่า “หน้าที่ของคนหนังสือพิมพ์กับหน้าที่พระเจ้าแผ่นดินนั้น มีลักษณะอย่างเดียวกัน คือทำให้เกิดความเข้าใจอันดีและถูกต้องขึ้นในมวลชน ข้าพเจ้าเองก็พยายามทำเช่นนั้น ชั่วแต่ว่าเราต้องทำด้วยพิธีรีตองและยศอย่างมากไปหน่อย”

ปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอตั้งจิตปฏิญานด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จะน้อมนำพระบรมราโชวาท พระราชดำรัส และพระราชดำริที่ได้เคยพระราชทานไว้ เป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะสื่อมวลชนและประชาชนตลอดไป

ทั้งนี้สมาคมนักข่าวฯได้เปิดให้เพื่อนสื่อมวลชนทุกแขนงร่วมลงนามทุกวันอย่างต่อเนื่อง และหลังจากนี้ จะมีพิธีแสดงความอาลัยและกิจกรรมร่วมของ ๑๔ องค์กรสื่อในวันอาทิตย์ที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ ตั้งแต่เวลา ๑๗.๐๐ น. เป็นต้นไป

********************************************

คำกล่าวรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและถวายความอาลัย

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ของนายวันชัย วงศ์มีชัย

นายก สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

 

ด้วยสำนึกพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  ข้าพระพุทธเจ้า นายวันชัย วงศ์มีชัย นายก สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย พร้อมด้วยสื่อมวลชนอาวุโสและบรรดาสื่อมวลชนทุกแขนง ต่างรู้สึกทุกข์โศกและอาดูรเสียใจเป็นล้นพ้นต่อการเสด็จสวรรคตในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  นับเป็นวันที่ความเศร้าเข้าปกคลุมจิตใจของปวงข้าพระพุทธเจ้าและประชาชาวไทยทุกคน

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อวงการสื่อมวลชนอย่างใหญ่หลวงโดยเฉพาะอาคารสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นที่ทำการของหลายองค์กรสื่อในปัจจุบัน สร้างขึ้นในที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จพระราชดำเนินทรงวางศิลาฤกษ์ในวันพฤหัสบดีที่ ๖ มีนาคม ๒๕๑๒ และเสด็จพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเปิดอาคารในวันเสาร์ที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๑๔ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อวงการสื่อมวลชนหาที่สุดมิได้

ในวโรกาสดังกล่าว ได้ทรงพระเมตตาพระราชทานพระบรมราโชวาทอันมีคุณค่ายิ่งต่อวงการสื่อมวลชนว่า

“ นักหนังสือพิมพ์เป็นผู้เสนอข่าวสาร ความรู้ ความคิดเห็น รวมทั้งเป็นปากเสียงแทนผู้อื่นทุกเรื่องทุกสิ่งที่ท่านนำลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์  แพร่หลายไปได้ โดยรวดเร็วและกว้างขวางอย่างไม่มีขอบเขต จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จักต้องปฏิบัติงานด้วยความตั้งใจ ด้วยความพิจารณาที่รอบคอบด้วยความสุจริต ยุติธรรม และด้วยความสำนึกในความรับผิดชอบเป็นพิเศษอยู่เป็นนิตย์”

และยังได้เคยมีพระราชดำรัสพระราชทานแก่สมาชิกสมาคมนักหนังสือพิมพ์ที่กรุงวอชิงตันว่า

“หน้าที่ของคนหนังสือพิมพ์กับหน้าที่พระเจ้าแผ่นดินนั้น มีลักษณะอย่างเดียวกัน คือทำให้เกิดความเข้าใจอันดี และถูกต้องขึ้นในมวลชน ข้าพเจ้าเองก็พยายามทำเช่นนั้น ชั่วแต่ว่าเราต้องทำด้วยพิธีรีตอง และยศอย่างมากไปหน่อย”

ปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอตั้งจิตปฏิญานด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จะน้อมนำแนวทางตามพระบรมราโชวาท พระราชดำรัส และพระราชดำริที่ได้เคยพระราชทานไว้ เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวในการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะสื่อมวลชนและประชาชนตลอดไป