อุปนายกฝ่ายบริหารสมาคมนักข่าวฯ เป็นผู้แทนองค์กรสื่อไทยเยือนจีน เข้าร่วมชมพิธีเปิดการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ครั้งที่ 19

อุปนายกฝ่ายบริหารสมาคมนักข่าวฯ เป็นผู้แทนองค์กรสื่อไทยเยือนจีน เข้าร่วมชมพิธีเปิดการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ครั้งที่ 19

 

ปักกิ่ง  -   รัฐบาลจีนได้เชิญผู้แทนระดับผู้บริหารองค์กรสื่อนานาชาติ 36 คน จาก 30 ประเทศ  เข้าประชุมหารือความร่วมมือระหว่างสื่อมวลชนสองประเทศ  ต่อนโยบาย “Belt and Road” (B&R) ของจีน  รวมทั้งเข้าร่วมในพิธีเปิดการประชุมใหญ่ผู้แทนพรรคคอมมูนิสต์จีนครั้งที่ 19 ณ กรุงปักกิ่งระหว่างวันที่ 15 – 21 ต.ค. ที่ผ่านมา  โดยนายมงคล  บางประภา อุปนายกฝ่ายบริหารและเลขาธิการสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และเลขาธิการสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย  เป็นผู้แทนที่ได้มอบหมายไปร่วมเยือนในครั้งนี้

 

ในการนี้ผู้บริหารองค์กรสื่อหลายประเทศ  ได้แลกเปลี่ยนความคิด รวมทั้งบอกเล่าประวัติความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรสื่อที่ตนสังกัดกับองค์กรสื่อของประเทศสาธารณะรัฐประชาชนจีน  ซึ่งผู้แทนองค์กรสื่อหลายประเทศ  ทั้งในทวีปเอเชีย  ยุโรปตะวันออกแอฟริกาได้แสดงการสนับสนุนนโยบาย Belt and Road ของจีน  และยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างสื่อมวลชนทั้งสองประเทศในการทำหน้าที่รายงาน แลกเปลี่ยนความรู้  และแลกเปลี่ยนการเหย้าเยือนระหว่างกัน  เพื่อให้เกิดความเข้าใจในนโยบายดังกล่าวและสื่อสารต่อไปยังประชาชนของแต่ละประเทศ

 

นายมงคล  บางประภา  อุปนายกฝ่ายบริหาร  และเลขาธิการสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ ในฐานผู้แทนองค์กรสื่อจากประเทศไทย  กล่าวแสดงความเห็นต่อที่ประชุมในตอนหนึ่งว่า  สื่อไทยตระหนักและเห็นพ้องในความสำคัญของนโยบาย Belt and Road ของประเทศจีนว่ามีคุณค่าเชิงเศรษฐกิจร่วมกันของทั้งภูมิภาคและอนุภูมิภาค  แต่ในฐานะสื่อมวลชนในประเทศที่มีอิสระในการนำเสนอข่าวสารบนพื้นฐานข้อเท็จจริงและความรับผิดชอบ  ใคร่ขอให้ทางการจีนจัดให้มีแหล่งข่าว หรือโฆษกอย่างเป็นทางการสำหรับการให้ข่าว B&R กับสื่อมวลชนไทยโดยเฉพาะ  เพื่อเป็นการให้ข้อมูลได้รอบด้านอย่างทันท่วงที  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  เพื่อแก้ปัญหาการสื่อข่าวสารข้อมูลที่อาจผิดพลาด  หรือโดยความจงใจให้เกิดความเข้าใจผิดบนพื้นที่ของสื่อโซเชี่ยลมีเดียผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

 

“สื่อมวลชนไทยมีความรู้สึกเช่นเดียวกับประชาชนชาวไทย  เราไม่มีข้อกังขาต่อศักยภาพด้านเทคโนโลยีของประเทศจีน  แต่ความกังวลยังคงมีอยู่เนื่องจากแม้หลักการของ B&R จะตั้งอยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกัน  แต่ด้วยศักยภาพที่เหนือกว่าแทบทุกด้านของประเทศมหาอำนาจอย่างจีน  สภาพการแข่งขันสำหรับประเทศเล็กทั้งหลายอาจจะเสียเปรียบในภายภาคหน้า  หากประเทศใหญ่มองข้ามขีดจำกัดของประเทศที่เล็กกว่า  ละเลยการประคับประคองช่วยเหลือให้เกิดความเจริญอย่างทัดเทียมกันบนโครงการ B&R นี้  ประเทศเล็ก ๆ ก็จะถูกทิ้งห่างจากกระแสการพัฒนาครั้งนี้”  นายมงคลกล่าว

 

อุปนายกสมาคมนักข่าวฯ กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า  ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล การทำความเข้าใจ ตลอดจนการศึกษาดูงานอันเกี่ยวเนื่องกับ B&R ระหว่างสื่อมวลชนของทั้งสองประเทศเป็นระยะ ๆ บนหลักแห่งความเสมอภาคต่อกัน

 

ในการนี้นายจางหยางหนง (Zhang Yannong) ประธานสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศจีน (All-China Journalists Association) กล่าวตอบผู้แทนสื่อ 30 ประเทศว่า  ประเทศจีนได้วางหลักนโยบาย B&R บนพื้นฐานของผลประโยชน์  ความช่วยเหลือและความร่วมมืออย่างเท่าเทียมกัน    แม้ว่าประเทศต่าง ๆ ที่จะมีส่วนร่วมใน B&R ของจีนจะมีพื้นฐาน ภาษา วัฒนธรรมที่แตกต่างกัน  แต่เราก็ยังสามารถอาศัยเวทีของสื่อสารมวลชนในการทั้งรับฟัง รับรู้และร่วมกันพัฒนาด้วยกัน จึงไม่ใช่หนึ่งประเทศร้องเพลงและให้หลายประเทศร้องประสาน  แต่เป็นการร่วมบรรเลงไปด้วยกัน  ข้าพเจ้าจึงขอสนับสนุนและยินดีต้อนรับสื่อสารมวลชนจากนานาชาติมาให้ความร่วมมือ ร่วมรับรู้และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยกัน

 

“ขอสนับสนุนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของคณะสื่อมวลชนระหว่างประเทศสำหรับศึกษาดูงาน  ตลอดจนรายงานข่าวโครงการในนโยบาย B&R ที่อาจจะจัดขึ้นปีละครั้ง  เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างสื่อมวลชน”  นายจางกล่าว

 

นายสีจิ้นผิง (Xi Jinping) ประธานาธิบดีและผู้นำพรรคคอมมูนิตย์จีน  ได้กล่าวตอนหนึ่งในพิธีเปิดการประชุมใหญ่พรรคคอมมูนิตย์จีนครั้งที่ 19 ที่หอประชุมใหญ่ศาลามหาประชาชนจีน กรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2560 พูดถึงนโยบาย B&R ว่าเป็นนโยบายสำคัญเพื่อการเปิดกว้างทางการค้าสู่โลก  และนำโลกสู่จีน  โดยจะสนับสนุนการค้าเสรีเพื่อพัฒนาการค้า การลงทุน ตลอดจนการพัฒนาทางสังคม  ซึ่งเป็นการเน้นย้ำถึงความสำคัญที่จีนจะขยายเส้นทางการค้าสายสำคัญสู่หลากหลายภูมิภาคจากเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ไปจรดภูมิภาคยุโรปและแอฟริกา ให้ยิ่งใหญ่เทียบเท่าหรือมากกว่าเส้นทางสายไหมในยุคโบราณ

 

ในการเยือนประเทศจีนครั้งนี้  คณะผู้แทนองค์กรสื่อนานาชาติ  ยังได้รับโอกาสเข้าร่วมชมพิธีเปิดการประชุมใหญ่พรรคคอมมูนิตจีนครั้งที่ 19  ได้นั่งรถไฟความเร็วสูงไปชมการพัฒนาเขตเศรษฐกิจใหม่เทียนจินที่ห่างออกไป 130 กว่ากิโลเมตรทางตอนใต้ของกรุงปักกิ่ง  ชมเขตพัฒนาพิเศษด้านเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมหยางชิ่ง  ทางตอนเหนือของกรุงปักกิ่ง  ซึ่งได้เห็นความเจริญรุ่งเรืองและพัฒนาการของกิจการโลจีสติก  ของบริษัท “LEYARD” ซึ่งใช้เทคโนโลยี LED เนรมิตสนามกีฬารังนกทั้งสนามให้กลายเป็นจอภาพแสดงแสงสีเสียง  ในงานกีฬาโอลิมปิคปี 2014 ที่กรุงปักกิ่งได้เยี่ยมชมกิจการ “Shentong Express Limited company”  ซึ่งใช้เทคโนโลยีแยกพัสดุไปรษณีย์ด้วยหุ่นยนตร์อ่านบาร์โคตร  ตลอดจนเยี่ยมชมกำแพงเมืองจีนอันยิ่งใหญ่ ณ บริเวณยอดเขา “ปาต้าหลิง”  รวมทั้งอุทยานแห่งชาติล่มน้ำบึงห่านป่า (Yeyahu) ที่มีทิวทัศน์อันงดงามอีกด้วย