นักข่าวลาวประทับใจ “2 สมาคมสื่อไทย” ร่วมแชร์ความรู้ พัฒนาศักยภาพรับมือการปรับภูมิทัศน์ก้าวทันโลกดิจิทัล



การอบรมหัวข้อ “เนื้อหาและการตลาดออนไลน์สำหรับเว็บไซต์ข่าว” ที่ร่วมกันจัดขึ้นระหว่างสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย (Thai Journalists Association) สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ (Online News Providers Association) และสมาคมนักข่าวแห่ง สปป.ลาว (Lao Journalists Association) โดยมีบริษัทอีซูซุมอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ให้การสนับสนุนได้เสร็จสิ้นลงแล้ว โดยได้มีพิธีปิดการฝึกอบรม และมอบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้เข้าร่วมอบรมที่สำเร็จตามหลักสูตรไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งมีท่านสะหวันคอน ราดซะมนตรี รองรัฐมนตรีกระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว สปป.ลาว และประธานสมาคมนักข่าวแห่ง สปป.ลาว เป็นประธานในพิธี


การอบรมดังกล่าวจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน ที่วิทยุแห่งชาติลาว (Lao National Radio) ในนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว มีสื่อมวลชนลาวเข้าร่วมกว่า 40 คน จาก 14 หน่วยงาน ทั้งจากหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ ตั้งแต่ระดับบริหาร ไปจนถึงระดับปฏิบัติการ โดยมีคณะวิทยากรจากสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ประกอบด้วย นายก้าวโรจน์ สุตาภักดี นายกสมาคมฯ (รองผู้อำนวยการ TNN Digital Media) นายวริษฐ์ ลิ้มทองกุล ที่ปรึกษาสมาคมฯ (ผู้บริหารสื่อในเครือหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ) นางสาวอรพิน เหตระกูล เลขาธิการสมาคมฯ (ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อออนไลน์ สถานีโทรทัศน์ New18) และนายระวี ตะวันธรงค์ กรรมการสมาคมฯ (รองประธานฝ่ายดิจิทัลมีเดีย สปริงนิวส์ 26) เป็นผู้ให้ความรู้ ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การสร้างสรรค์เนื้อหาให้เหมาะสมกับการนำเสนอในช่องทางสื่อดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ เฟชบุ๊ค หรือยูทูบ และกลยุทธ์การทำการตลาด การหารายได้จากช่องทางต่างๆ ข้างต้น นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมอบรมยังได้มีโอกาสทำเวิร์คชอปการกำหนดประเด็นข่าว แง่มุมการนำเสนอ ออกแบบเนื้อหา และกำหนดวิธีการให้เหมาะสมกับช่องทางดิจิทัล จากสถานการณ์ปัจุบัน ซึ่งได้รับคำแนะนำจากวิทยากรเพื่อนำไปปรับปรุงพัฒนาการสร้างสรรค์เนื้อหาต่อไป

ทั้งนี้ ผลตอบรับจากการจัดการอบรมในครั้งนี้ พบว่าผู้เข้าร่วมอบรมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับสูง โดยร้อยละ 59 ของผู้ตอบแบบประเมินระบุว่า พอใจด้านเนื้อในระดับมากที่สุด และร้อยละ 38 พอใจอยู่ในระดับมาก ขณะที่ ร้อยละ 41 ระบุว่าสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในระดับมากที่สุด ร้อยละ 32 สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในระดับมาก อย่างไรก็ตาม ผู้เข้าอบรมได้สะท้อนข้อเสนอนแนะว่า อยากให้มีการจัดอบรมให้ความรู้ในเรื่องนี้ในเชิงลึก โดยมีเวลา และเน้นการลงมือปฏิบัติมากกว่านี้ เพราะเรื่องนี้ถือเป็นองค์ความรู้ใหม่สำหรับสื่อมวลชน และองค์กรสื่อมวลชนลาวที่กำลังปรับตัวจากการนำเสนอในช่องทางสื่อกระแสหลักไปสู่ช่องทางดิจิทัล ท่ามกลางความท้าทายรอบด้านโดยเฉพาะด้านการหารายได้

สำหรับการจัดอบรมให้ความรู้แก่สื่อมวลชน ถือเป็นหนึ่งในความร่วมมือด้านการยกระดับพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบวิชาชีพ ซึ่งสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าวแห่ง สปป. ลาว ในฐานะเป็นองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนของสองประเทศที่สถาปนาความสัมพันธ์ และมีความร่วมมือกันมายาวนานกว่า 30 ปี ให้ความสำคัญ เพราะนอกจากจะแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างนักวิชาชีพสื่อสารมวลชนของไทย และลาวแล้ว การปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นมืออาชีพยังจะมีส่วนช่วยยกระดับความรู้ ความเข้าใจของสังคม อันจะนำไปสู่ประโยชน์แก่สาธารณะ ตลอดจนความสัมพันธ์อันดีของทั้งสองประเทศด้วย