สมาคมนักข่าวฯเดินหน้ายุทธศาสตร์ต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนและประชาชน

สมาคมนักข่าวฯเดินหน้ายุทธศาสตร์ต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนและประชาชนพร้อมกับพัฒนาศักยภาพนักข่าวในความเป็นมืออาชีพ จัดกิจกรรมวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลกเชิญชวนพี่น้องสื่อมวลชนร่วมกิจกรรมต่อต้านกฎหมายคุมสื่อ ชูสโลแกน “หยุดตีทะเบียนสื่อ หยุดครอบงำประชาชน”

 

เมื่อวันที่ 25 เมษายน นายปรัชญาชัย ดัชถุยาวัตร โฆษกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงผลการสัมมนายุทธศาสตร์สมาคมนักข่าวฯ ประจำปี 2560 ระหว่างวันที่ 23 -24 เมษายน ที่ผ่านมาว่า ในการสัมมนาฯมีการแลกเปลี่ยนความเห็นกันอย่างกว้างขวางเพื่อร่วมกำหนดยุทธศาสตร์และแผนงาน โดยที่ประชุมได้วางยุทธศาสตร์ในการต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนและประชาชนรวมทั้งพัฒนาศักยภาพนักข่าวในความเป็นมืออาชีพและวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง โดยมีข้อสรุปดังนี้

 

1.ฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ แผนงานระยะสั้นจะเน้นไปที่การคัดค้านร่างกฎหมายควบคุมสื่อ ของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.)โดยดึงภาคส่วนต่างๆ มาเป็นแนวร่วม เพื่อชี้ให้เห็นผลกระทบของร่างกฎหมายฉบับนี้ที่จะส่งผลต่อการปิดกั้นการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน ระยะยาว จะติดตามการออกกฎหมายควบคุมสื่ออย่างต่อเนื่อง พร้อมกับทำข้อเสนอที่ให้มีกลไกการทำงานร่วมกันของสภาวิชาชีพ โดยเห็นว่าควรมีกฎหมายการกำกับกันเองรองรับกระบวนการพิจารณาด้านจริยธรรม โดยปราศจากตัวแทนของรัฐบาล

 

2.ฝ่ายสวัสดิการและสมาชิกสัมพันธ์ จะมุ่งเน้นสร้างรายได้รองรับปัญหาเศรษฐกิจ เตรียมพร้อมรับภาวะเลิกจ้างงาน สื่อปิดตัว จึงเตรียมการฝึกอาชีพไว้รองรับสมาชิก  รวมถึงช่องทางในการประกอบธุรกิจแบบเอสเอ็มอี เน้นธุรกิจที่ลงทุนน้อยให้ผลตอบแทนในจุดที่น่าพอใจ และเป็นที่ต้องการของตลาด  ส่วนการประสานงานสร้างความสัมพันธ์ในหมู่เพื่อนพ้องน้องพี่นักข่าวสายต่างๆจะเข้มข้นขึ้น สำหรับทุนการศึกษาโดยเฉพาะทุนต่อเนื่องที่ได้รับความอนุเคราะห์จากมูลนิธิเอสซีจีเพิ่มมาเป็นปีละ 20 ทุน จะพยายามให้ยอดทุนที่เพิ่มมาคงอยู่ต่อไปและหาวิธีที่จะทำให้สมาชิกหรือสื่อมวลชนต่างๆเข้ามาสนใจในงานที่สมาคมได้ดำเนินการอยู่ ซึ่งได้เล็งการทำซีเอสอาร์ เพื่อให้เป็นผลงานของสมาคมแบบเป็นรูปธรรม เป็นโครงการต่อเนื่องในรุ่นต่อๆไป

 

3.ฝ่ายต่างประเทศ  แบ่งเป็น 1.ด้านการสร้างเครือข่ายและความสัมพันธ์ ประกอบด้วย โครงการแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์สื่อมวลชนในประเทศต่างๆ โดยในปีนี้จะเยี่ยมเยือน 4 ประเทศคือ  ลาว  เวียดนาม  เมียนมา และจีน และการเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์กรสื่อระหว่างประเทศ เช่น ทำหน้าที่เป็นกรรมการบริหารตำแหน่งเหรัญญิก ของ Southeast Asian Press Alliance (SEAPA) เข้าร่วมเป็นสมาชิกก่อตั้ง International Freedom of Expression Exchange (IFEX) และร่วมเป็นกรรมการบริหาร  สมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และกิจกรรม Lunch Talk กับผู้สื่อข่าวต่างประเทศในประเทศไทย 2.ด้านงานวิชาการและส่งเสริมพัฒนาศักยภาพสื่อมวลชน  ประกอบด้วย  โครงการ

 

ฝึกอบรมนักข่าวสายท่องเที่ยวจากประเทศสมาชิกอาเซียน (ASEAN Travel Journalists Program)  โครงการอบรมหลักสูตรความรู้การเป็นประชาคมอาเซียนสำหรับสื่อมวลชน โครงการปรับปรุงคู่มือสื่อมวลชนไทย – ลาว โครงการอบรมความรู้ภาษาไทยเบื้องต้นสำหรับสื่อมวลชนเวียดนาม (Thai Language Course for Vietnamese Journalists) และ โครงการอบรมความรู้ภาษาอาเซียน (อินโดนีเซีย)

 

4. แผนงานฝ่ายวิชาการ  ประกอบด้วย 1. ส่งเสริมสิทธิเสรีภาพสื่อบนความรับผิดชอบ  อาทิ การจัดเวทีราชดำเนินเสวนา โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับ พรบ.คุ้มครองสื่อฯ, รัฐธรรมนูญปี 2560, หรือหัวข้อที่เป็นเหตุการณ์ปัจจุบัน เพื่อให้นักข่าวได้ข้อมูลและความรู้ครบถ้วนรอบด้าน จะมีการเผยแพร่เนื้อหาดังกล่าวเป็นข่าวพร้อมภาพ เสียง และตัดต่อวิดีโอขึ้นเว็บไซต์สมาคม tja.or.th และเพจจุลสารราชดำเนิน เพจสมาคมนักข่าวฯ กลุ่มไลน์ เป็นต้น และการจัดทำวารสารจุลสารราชดำเนิน โดยมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับสถานการณ์สื่อ  2. ส่งเสริมพัฒนาศักยภาพสื่อมวลชน  อาทิ อบรมความรู้ระยะสั้น ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ความรู้เรื่องการทำอินโฟกราฟิก  การเขียนข่าวออนไลน์  การตัดต่อวิดิโอ  เป็นต้น ร่วมมือระหว่างนักวิชาการและนักวิชาชีพสื่อมวลชน จัดสัมมนายุทธศาสตร์วารสารแห่งอนาคต ครั้งที่ 13 หัวข้อ“สมดุลสื่อ สัมพันธ์ธุรกิจ” การอบรมเชิงปฏิบัติการนักข่าวพิราบน้อยรุ่นที่ 20 ทุกกิจกรรมจะจัดทำเนื้อหาสรุปขี้นเว็บไซต์สมาคม tja.or.th ในรูปแบบเนื้อหาข้อความพร้อมภาพประกอบ  เสียงและวิดีโอ

 

นายปรัชญาชัย กล่าวอีกว่า ในวันที่ 3 พ.ค.นี้ซึ่งเป็นวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก ปีนี้สมาคมนักข่าวฯและองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน ได้จัดกิจกรรมที่สำคัญ เพื่อต่อต้านร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชนของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านสื่อสารมวลชน สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ที่ให้มีตัวแทนภาครัฐเป็นกรรมการสภาวิชาชีพสื่อมวลชน มีอำนาจขึ้นทะเบียนออกและเพิกถอนใบอนุญาตให้แก่ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อ ใครไม่มีในอนุญาตมีบทลงโทษรุนแรงติดคุกถึง3ปี  จึงเป็นกฎหมาย"ควบคุมสื่อ" ที่ขัดแย้งกับบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญที่รองรับสิทธิเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นของสื่อมวลชนและประชาชน

 

โฆษกสมาคมนักข่าวฯ กล่าวว่า ก่อนจะถึงวันงานดังกล่าว สมาคมนักข่าวฯจะรณรงค์ให้มีการ เปลี่ยนโปรไฟล์เฟสบุ๊ก  “หยุดตีทะเบียนสื่อ”  และแจกเสื้อหยุดตีทะเบียนสื่อ ถึงมือพี่น้องสื่อมวลชนภาคสนาม อาทิ   ทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา ทหาร ตำรวจ    เพื่อร่วมกันรณรงค์ต่อต้านกฎหมายควบคุมสื่อ  สำหรับกิจกรรมงานเสรีภาพสื่อมวลชนโลก  3พ.ค.เวลา 10.00น.ตัวแทนองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน จะร่วมแถลงการณ์เนื่องในวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก จากนั้นมีการเสวนา หัวข้อ“เสรีภาพสื่อกับอนาคตสังคมไทย”  เสร็จแล้วจะมอบรางวัลการประกวดสโลแกนที่ใช้ในการรณรงค์วันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก โดยสโลแกนที่ชนะเลิศคือ  “หยุดตีทะเบียนสื่อ หยุดครอบงำประชาชน”  จึงขอเชิญพี่น้องสื่อมวลชนร่วมกิจกรรมครั้งนี้อย่างพร้อมเพรียงกัน