เปิดใจเบื้องหลังภาพชนะเลิศ “วันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก”

ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองของฝ่ายต่างๆ  เราสามารถตั้งข้อสังเกตถึงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนว่า อาจเป็นการปิดกั้น สิทธิเสรีภาพในการนำเสนอของสื่อมวลชน ให้สังคมรับทราบในข้อเท็จจริง ภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน  รวมถึงการคุกคามสื่อทุกในรูปแบบ

“ในมุมมองการทำหน้าที่เป็นสื่อมวลชน พวกเราคือผู้ที่จะได้รู้ได้เห็น  และได้ยินทุกเหตุการณ์ชุมนุมเป็นคนแรกเสมอ   ดังนั้นเราควรจะทำหน้าที่เป็นหูเป็นตาให้กับประชาชน เพื่อนำเสนอข้อเท็จจริงที่ถูกต้องรอบด้าน  แต่ในหลายๆครั้ง  พวกเรากลับถูกปิดกั้นการทำงานสื่อภาคสนามจากทั้งสองฝ่าย   จึงอยากให้เข้าใจการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน   ซึ่งอาจไม่ถูกใจฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง....”

มุมมองบางส่วนของ เอกลักษณ์ ไม่น้อย ช่างภาพไทยรัฐออนไลน์  เจ้าของผลงานภาพถ่ายที่ได้รางวัลชนะเลิศ  จากสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย  เนื่องในวัน เสรีภาพสื่อมวลชนโลก  ซึ่งตรงกับวันที่ 3 พฤษภาคมของทุกปี  ซึ่งสาเหตุที่ได้ส่งผลงานภาพถ่ายชิ้นนี้เข้าประกวด  ยอมรับว่าการทำหน้าที่สื่อมวลชนภาคสนามที่ผ่านมา  พบว่ามักจะถูกกีดกันเป็นด่านแรกๆ  ดังนั้นจึงอยากให้ภาพถ่านนี้เป็นตัวแทน  เห็นภาพของสื่อมวลชนทุกคน  ซึ่งกำลังทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งได้ดี 

สำหรับผลงานภาพถ่ายชิ้นนี้  เป็นภาพเหตุการณ์ชุมนุมบริเวณหน้ากรมทหารราบ1 เมื่อวัน28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ระหว่างกลุ่มเยาวชนปลดแอกปะทะกับเจ้าหน้าที่ภาครัฐทั้งกำลังตำรวจ ทหาร  ซึ่งการชุมนุมค่อยๆทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กระสุนยางกับกลุ่มผู้ชุมนุม การปิดกั้นสื่อ  เสมือนเป็นความพยายามในการปิดกั้นสิทธิการรับรู้ข่าวสารของประชาชน จึงอาจทำให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการปิดกั้นสื่อดังกล่าวออกมาเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้สถานการณ์มีความซับซ้อน ละเอียดอ่อนและอาจนำไปสู่ความรุนแรงได้

ทั้งนี้หลังทราบผลการตัดสินรู้สึกตื่นเต้น เพราะนี่ถือเป็นรางวัลแรกในชีวิตของอาชีพช่างภาพ  เมื่อได้เห็นสมาคมนักข่าวฯ ประกาศเชิญส่งผลงานร่วมโครงการประกวด  ในความรู้สึกก็คิดถึงภาพนี้ขึ้นมาทันที  แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้รางวัลชนะเลิศ เพราะเห็นผลงานภาพถ่ายของเพื่อนๆ หลายๆสื่อ ภาพถ่ายขอทุกคนที่ส่งเข้าประกวดแต่ละภาพล้วนสื่อความหมายได้ดี 

ก่อนปิดท้ายเอกลักษณ์ ได้ฝากถึงการทำหน้าที่สื่อมวลชนภาคสนามว่าควรมีวิธีป้องกันตนเอง ซึ่งที่ผ่านมาเขาเคยผ่านการอบรม Safety training  ของสมาคมนักข่าวฯ  ได้รับความรู้เรื่องการรายงานข่าวในสถานการณ์ความขัดแย้ง เรียนรู้โครงสร้างความขัดแย้ง  และรู้การช่วยชีวิต-การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ซึ่งถือเป็นพื้นฐานในการช่วยเหลือผู้อื่นหรือการป้องกันตัวเอง  เพราะสื่อมวลชนต้องเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ  ที่ต้องช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และกลุ่มมวลชน  บางเหตุการณ์เราก็ได้รับการช่วยเหลือด้วยเช่นกัน   ตอนนี้ยุคโซเชียลทุกคนสามารถเป็นสื่อและนำเสนอข่าวได้หมด แต่สื่อมวลชนคือผู้ที่จะสามารถนำเสนอได้รอบด้านและครอบคลุม เพื่อไม่ให้สารนั้นผิดเพี้ยน

ติดตามรายการ #ช่วยกันคิดทิศทางข่าว ได้ทุกวันอาทิตย์  เวลา 11.00-12.00 น. ทางวิทยุและ Facebook live FM 100.5  MCOT News Network และ Facebook สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

ประกาศผลการตัดสินการประกวดภาพถ่ายรางวัล“เสรีภาพสื่อไทย ในสถานการณ์ปัจจุบัน”