รายงานพิเศษ
โดยกองบรรณาธิการเพจจุลสารราชดำเนิน
...........................................
สำรวจ"สวัสดิการ"องค์กรสื่อ
ค่ายไหน Support กันอย่างไร
ปัจจัยในการเลือกสมัครงานหรือทำงานในองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน นอกเหนือจากเรื่อง”ความมั่นคง-เงินเดือน-ค่าตอบแทน-โบนัส”แล้ว เรื่องของ”สวัสดิการ”เช่น ”ค่ารักษาพยาบาลเวลาเจ็บไข้ได้ป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ” ตลอดจนเงินช่วยเหลือ-สวัสดิการพิเศษอื่นๆ ที่องค์กรให้กับพนักงานและครอบครัวของพนักงาน ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจสมัครทำงานในองค์กรนั้นๆ หรือเมื่อเข้าไปทำงานแล้วหากเห็นว่า องค์กรที่ทำงานอยู่มีสวัสดิการดังกล่าวที่ดี ก็อาจทำให้หลายคนอยากทำงานกับองค์กรนั้นไปนานๆ หรือบางคน หากเห็นว่า องค์กรที่ทำอยู่ไม่มีสวัสดิการที่ดีให้ จะได้เป็นหลักประกันในชีวิต โดยเฉพาะยามเมื่ออายุมากขึ้น เรื่อง สวัสดิการฯ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้คนอยากย้ายสถานที่ทำงานได้เช่นกัน
“คนข่าว-คนทำงานองค์กรสื่อสารมวลชน”ก็เฉกเช่นเดียวกับ พนักงาน-เจ้าหน้าที่รัฐ ทั่วไป ที่ก็ต้องการให้องค์กรที่สังกัดอยู่ มีสวัสดิการพิเศษให้กับพนักงาน เช่น สวัสดิการในเรื่องการดูแลรักษาสุขภาพ เพื่อจะได้เซฟค่าใช้จ่ายในการดูแลตัวเอง -การตรวจสุขภาพหรือยามเจ็บไข้ได้ป่วย แต่องค์กรสื่อ ก็เหมือนกับองค์กรธุรกิจทั่วไป ที่ก็มีทั้งองค์กรขนาดใหญ่-กลาง-เล็ก ทำให้แต่ละองค์กร ก็ย่อมมีสวัสดิการให้กับพนักงานแตกต่างกันไป ตามสภาพองค์กรและสภาวะเศรษฐกิจ
"ทีมข่าวเพจจุลสารราชดำเนิน" ได้สำรวจ "สวัสดิการ" ขององค์กรสื่อหลายแห่ง ที่ให้กับพนักงานในองค์กรสื่อแต่ละแห่งว่าเป็นเช่นไร
สำนักข่าวออนไลน์
ก็มีประกันอุบัติเหตุ-กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
เริ่มต้นที่ "พงศ์พิพัฒน์ บัญชานนท์" บรรณาธิการบริหารเว็ปไซต์ The Matter เล่าให้ฟังว่า ในส่วนของกองบรรณาธิการฝ่ายข่าวจะมีพนักงานที่ทำคอนเทนท์ประมาณ 12 คน โดยนอกจากประกันสังคม ทางบริษัทมีประกันอุบัติเหตุ โดยเป็นประกันกลุ่มให้กับพนักงาน โดยพนักงานสามารถไปตรวจสุขภาพประจำปีกับโรงพยาบาลที่เป็นพันธมิตรกับบริษัทประกันได้ ส่วนวงเงินที่ทำประกันอยู่ที่ประมาณหลักแสนบาท แต่ที่ผ่านมาพนักงานในส่วนคอนเทนท์ The Matter ยังไม่มีใครเป็นอะไรมาก แค่ป่วยปกติเท่านั้น โดยสวัสดิการที่มีอยู่นั้นพนักงานถือว่าพอใจ เพราะมีการดูแลพนักงานในเรื่องโบนัสและการขึ้นเงินเดือนด้วย
ด้าน "ฐานิส สุดโต" บรรณาธิการภาพ สำนักข่าว The Standard เปิดเผยว่า สวัสดิการของ The Standard มีประกันสังคม มีประกันกลุ่ม แต่ในปีนี้เพิ่งจะมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพิ่มขึ้นมาเพื่อให้พนักงานได้เข้าไปสมัคร โดยจะแบ่งเป็นสัดส่วนว่าเราสะดวกแค่ไหน และจะทำหรือไม่ทำก็ได้ ซึ่งทั้งบริษัทมีพนักงานประมาณ 80 กว่าคน ส่วนตัวรู้สึกพอใจกับสวัสดิการที่ดูแลพนักงานและเพิ่มความมั่นใจว่าบริษัทจะมั่นคงแข็งแรง ที่ผ่านมาบริษัทก็มีสวัสดิการคล้ายๆ กับที่อื่น ก็มีโบนัส มีขึ้นเงินเดือน และยังมีการมอบตำแหน่งพนักงานดีเด่นให้ด้วย เรียกว่าใครตั้งใจทำงาน มีผลงาน ก็จะมีการให้กำลังใจกัน รวมถึงมอบเงินให้จำนวนประมาณ 1 หมื่นบาทเพื่อเป็นกำลังใจด้วย
บางค่ายให้สวัสดิการ
ครอบคลุมถึงพ่อแม่นักข่าว
มาที่สื่อค่าย "ฐานเศรษฐกิจ" พบว่าเป็นองค์กรที่ก็มี การให้พนักงานทำประกันสังคมเหมือนกับทุกออฟฟิศข่าวทั่วไป พนักงานเพียงกรอกเอกสารกับฝ่ายบุคคลแล้วเลือกโรงพยาบาลที่สะดวก แต่ที่เพิ่มขึ้นมาก็คือ มีสวัสดิการจัดทำประกันภัยกลุ่มให้กับพนักงานทุกคน แบบปีต่อปี โดยปี 2562ทำกับ บริษัท อาคเนย์ประกันภัย ทุนประกันภัยวงเงิน 3 แสนบาท ค่ารักษาพยาบาลครั้งละ 3 หมื่นบาท เมื่อหมดอายุก็จะต่อใหม่ในปีต่อไป ทำเช่นนี้ทุกปี เพื่อดูแลพนักงาน รวมทั้งยังมีสวัสดิการการออมแบบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ที่ลูกจ้างสมัครใจให้หัก 5% ของเงินเดือนเข้ากองทุนทุกเดือน เมื่อครบ 3 ปี จะได้อีก 5% ของฝั่งนายจ้าง จะทำให้เงินออมทวีคูณเป็นสองเท่า หากจะเบิกถอนก่อนโดยไม่รอครบ 3 ปี เงินสมทบจากนายจ้างจะลดลงเล็กน้อยตามเกณฑ์ของธนาคารที่ร่วมโครงการ
นอกจากนี้ "ฐานเศรษฐกิจ" ยังมีสวัสดิการที่ไม่เป็นทางการ แต่ปฏิบัติกันบ่อยๆ หากมีพนักงานคนใด เจ็บป่วย ได้รับบาดเจ็บ ส่วนหนึ่งก็จะใช้สิทธิ์ที่พึงมีทั้งประกันสังคมและประกันภัย แต่อีกทางหนึ่งผู้บริหารและพนักงานจะช่วยกันระดมเงินช่วยเหลือตามความสมัครใจให้เพิ่มเติม เพราะเข้าใจว่าระหว่างที่พนักงานหยุดพักรักษาตัว ต้องมีค่าใช้จ่ายในครอบครัวทุกวัน จะเป็นการผ่อนหนักให้เป็นเบาอีกแรง รวมถึงมีพนักงานมีงานบุญงาน งานแต่ง งานบวช รับปริญญา จะช่วยในแบบนี้เป็นประจำ
อีกสวัสดิการที่ไม่เป็นทางการคือ "อาหารกลางวัน" ที่ผู้บริหารจะเลี้ยงในวันสำคัญของออฟฟิศ วันที่ประสบความสำเร็จกับงานที่ทำในช่วงที่ผ่านมา หรือเป็นช่วงที่ต้องมีการประชุมออฟฟิศนัดพิเศษ อยากจะเลี้ยงก็เลี้ยง ก็แล้วแต่ว่าจะสั่งอะไรมา เช่น อาหารอีสาน ส้มตำไก่ยาง พิซซ่า เคเอฟซี จะมีเป็นระยะๆ ยังมีงานเลี้ยงมิตติ้งประจำปีทั้งออฟฟิศในช่วงปีใหม่ ที่เชิญทุกคนไปทานข้าว พูดคุยร่วมกันแบบรีแล็กซ์ๆ มีจับของขวัญ ชิงเงินรางวัลเล็กๆ น้อยๆ รวมถึงมีการอบรมสัมมนาพนักงาน เพื่อเพิ่มทักษะและให้เห็นทิศทางองค์กรไปด้วยกัน ล่าสุดได้ไปช่วงปลายเดือน มิ.ย. ที่หาดตะวันรอน เมืองพัทยา ส่วนเรื่องโบนัส และปรับเงินเดือน เกิดขึ้นล่าสุดเมื่อปี 2561 เป็นการให้โบนัส 1 เดือน และปรับเงินเดือนในรอบ 14 ปี ตามผลประกอบการบริษัท
สำหรับองค์กรสื่อค่าย "หนังสือพิมพ์เดลินิวส์" คนข่าวค่ายเดลินิวส์ ให้ข้อมูลว่า บริษัท สี่พระยาการพิมพ์ จํากัด เจ้าของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ มีสวัสดิการดูแลพนักงานหลายด้านนอกจากประกันสังคม อาทิ มีเงินค่ารักษาพยาบาลในหนึ่งปีจะได้อยู่ประมาณ 700-900 บาท และยังมีค่ารักษาพยาบาลให้พ่อกับแม่พนักงานรวมกันปีละ 3,000 บาท รวมถึงมีเงินช่วยเหลือคลอดบุตร และค่าเทอมให้บุตรด้วย นอกจากนี้ยังมีค่าทำฟันให้อีก 900 บาทต่อปี รวมถึงมีการจัดหมอมาตรวจสุขภาพให้พรักงานถึงโรงพิมพ์บริษัทปีละ 1 ครั้ง หากมีคนในครอบครัวพนักงานเสียชีวิตจะมีเงินช่วยเหลืองานศพอีกครอบครัวละ 1 หมื่นบาท และมีพวงหรีดด้วย ส่วนตอนปี 2554 ที่มีน้ำท่วมใหญ่ บริษัทก็มีเงินช่วยเหลือให้พนักงานอีก แต่ทั้งหมดพนักงานก็รู้สึกพอใจกับสวัสดิการที่ได้รับ แต่อยากให้เพิ่มเติมเรื่องกองทุนสำรองเลี้ยงชีพด้วย
ขณะที่สวัสดิการที่เป็นทางการ ในเครือ "มติชน" นอกจากประกันสังคม ยังมีประกันกลุ่ม พนักงานสามารถนำใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลที่สำรองจ่ายพร้อมกับใบรับรองแพทย์มาเบิกค่ารักษาได้ ตามเงื่อนไขของประกัน และมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพโดยบริษัทสมทบเงินเข้ากองทุนให้พนักงาน นอกจากนี้หากจะซื้อหนังสือในเครือ ลด 30% ส่วนสวัสดิการที่ไม่เป็นทางการ ขึ้นอยู่กับนโยบายแต่ละกองบรรณาธิการซึ่งแตกต่างกัน อาทิ พนักงานประสบอุบัติเหตุ ต้องพักรักษาตัวระยะหนึ่ง อาจได้รับเงินเดือนเต็มจำนวนจนกว่าจะกลับมาทำงานได้ หรือในกรณีที่บุคคลในครอบครัวเจ็บไข้ ได้ป่วย หรือเสียชีวิต สามารถไม่ถือเป็นวันลาหากไม่กระทบงาน อย่างไรก็ตาม พนักงานส่วนใหญ่ไม่พูดถึงสวัสดิการ แต่จะพูดถึงเงินเดือนที่ควรปรับขึ้นตามค่าครองชีพที่สูงขึ้นมากกว่า
ด้านสื่อค่าย "บางกอกโพสต์" เราได้รับข้อมูลมาวา ภายหลังปรับลดไซต์ธุรกิจ และขนาดองค์กร แต่สวัสดิการยังคงเหมือนเดิมตั้งแต่ประกันสังคม ประกันชีวิตกลุ่มสำหรับผู้สื่อข่าว แต่ "บางกอกโพสต์" ยังมีการดูแลพนักงานภายในโดยมีหมอจากโรงพยาบาลเอกชนมาประจำอยู่ที่สำนักงานระหว่างเวลา 15.00-17.00 น. เพื่อมาตรวจสุขภาพและคัดกรองพนักงานที่เจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ แต่ถ้ามีกรณีที่รุนแรง หมอที่มาประจำจะส่งตัวไปตรวจรักษาในโรงพยาบาลเอกชนที่เป็นคอนแทคกับบริษัทประมาณ 20 แห่ง ซึ่งค่าใช้จ่ายในการรักษาบริษัทจะจ่ายให้ทั้งหมด
ส่วนครอบครัวพนักงาน กรณีมีบุตรเป็นผู้เป็นผู้ป่วยนอก สามารถมาเบิกได้ 200 บาทต่อครั้ง ส่วนตัวพนักงานของบริษัทหากไปรักษาคลินิกก็สามารถเบิกได้ 200 บาทเหมือน ขณะที่กองทุนสำรองเลี้ยงชีพยังมีอยู่เหมือนเดิม โดยหักประมาณ 7 % ของเงินเดือนพนักงาน โดยสวัสดิการนี้ถือว่ามีมาอย่างยาวนาน แต่ยังมีความแตกต่างอยู่บ้างในเรื่องสวัสดิการของพนักงานเก่า และพนักงานใหม่ ที่เข้ามาประมาณ 10 ปีที่แล้ว จะสิทธิบางเรื่องที่มีน้อยกว่าพนักงานเก่า
“ที่สำคัญเรื่อง เงินเดือนไม่ได้ขึ้นมา 5 ปีแล้ว แต่ยังมีเงินช่วยเหลือให้กับพนักงานบ้าง แต่ไม่มีกำหนดเวลาชัดเจน ทำให้พนักงานที่เหลืออยู่ในตอนนี้ยังคาดหวังว่าสิ้นปีนี้จะได้บ้าง”คนข่าวค่าย Bangkok Post ระบุ
ฟากฝั่งสื่อใหญ่ค่าย "ไทยรัฐ" ที่มีทั้ง ไทยรัฐทีวี-ไทยรัฐออนไลน์และหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ คนจากสื่อสิ่งพิมพ์”หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ”ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบัน ไทยรัฐ มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มีค่าเล่าเรียนบุตร สวัสดิการกู้บ้านในราคาดอดเบี้ยต่ำกว่าตลาด และยังมีเคสเฉพาะกิจต่างๆ ก็จะมีการข่วยเหลือ เช่น ตอนน้ำท่วมใหญ่กรุงเทพฯ ส่วน "ไทยรัฐ ทีวี" มีรักษาพยาบาลเป็นแบบประกันกลุ่ม นอกเหนือจากมีประกันสังคม ยังมีค่าทำฟัน 2,000 บาทต่อปี และมีตรวจสุขภาพประจำปี ขณะเดียวกัน ยังมีสวัสดิการเบี้ยเลี้ยงกรณีนักข่าวไปทำข่าวต่างจังหวัด ส่วนการลาต่างๆ ยังสามารถลาพักร้อน ลาป่วย ลากิจ ลาอุปสมบท ลาคลอดบุตร ลาทำหมัน ลาสมรส ลาจัดพิธีศพ ลาเพื่อศึกษาระหว่างวันได้เช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีการเบิกค่าทำงานในวันหยุดได้ รวมถึงค่ารถกรณีทำงานเช้าตรู่และเที่ยงคืน
ปิดท้ายที่ "เครือเนชั่น" นอกจากประกันสังคมของพนักงานแล้ว ยังมีค่าทำฟันให้ 3 พันบาทจากเดิม 2 พันบาทซึ่งเป็นสวัสดิการที่มีมานานมาก นอกจากนี้ ยังมีประกันสุขภาพแบบกลุ่ม โดยผู้บริหารชุดใหม่จะจ่ายให้พนักงานเป็นครั้งแรก และภายหลังจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา บริษัทก็มีประกันอุบัติเหตุมาต่อเนื่อง ตั้งแต่ผู้บริหารชุดเก่าถึงผู้บริหารชุดใหม่ ขณะเดียวกันยังคงกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งเครือเนชั่นเป็นบริษัททางสื่อแรกๆ ที่มีสวัสดิการให้ตรงนี้ รวมถึงการตั้งสหภาพแรงงานเพื่อช่วยดูแลคุ้มครองสิทธิของลูกจ้างและนายจ้างให้เป็นธรรม อาทิ ชั่วโมงทำงาน การเพิ่มเงิน หรือสิทธิต่างๆ ที่สมควรได้รับจากบริษัท
นอกจากนี้ "เครือเนชั่น" ยังมีสหกรณ์ออมทรัพย์ของเนชั่นตั้งแต่ปี 2545 จนถึงปัจจุบัน โดยให้พนักงานเก็นเงินสะสมไว้ พอถึงสิ้นปีพนักงานก็จะได้รับเงินปันผลจากที่สะสมไว้ช่วงเดือน ม.ค.ของทุกปี เพื่อจะเป็นฐานในการใช้กู้เงินสหกรณ์ได้ โดยเป็นดอกเบี้ยที่มีราคาถูกกว่าสถาบันการเงินภายนอก ซึ่งมีระยะเวลาผ่อนได้นานกว่าด้วย ล่าสุดมีการเปิดให้พนักงานทำสมาชิกฌาปนกิจ กรณีพนักงานเสียชีวิต ครอบครัวพนักงานจะได้เงินค่าจัดการศพที่พนักงานส่งกองทุนนี้ทุกเดือน
